โดราเอม่อนฉบับภาพยนตร์ตอนล่าสุดของปี 2013 ซึ่งถือเป็นตอนที่ 33 ของซีรี่ส์อนิเมชั่นฉบับภาพยนตร์นี้ ใช้ชื่อตอนว่า Doraemon: Nobita’s Secret Gadget Museum หรือชื่อไทยคือ โนบิตะล่าโจรปริศนาในพิพิธภัณฑ์ของวิเศษ (แปลตั้งชื่อได้ตรงกันมั่ก ถ้าเพิ่มคำว่ากู้โลก ถล่มเมืองได้ ก็คงทำ) ภาคนี้เป็นอีกภาคที่เลือกแต่งเนื้อเรื่องใหม่ ไม่ได้รีเมกตอนเก่าอย่างช่วงหลายปีที่ผ่านมา (ฉบับปี 2014 ก็จะใช้ตอนเก่ารีเมก) ผลลัพธ์ของภาคนี้คือการทำให้ยอดคนดูรวมของซีรี่ส์โดราเอม่อนทั้งหมด มีคนดูเกิน 100 ล้านคน ลบสถิติของซีรี่ส์ก็อดซิลล่าลงได้
พล็อตของโดราเอม่อนฉบับภาพยนตร์ก็ยังคงแนวเดิม มีเหตุการณ์ที่พลิกผันทำให้ต้องไปผจญภัยในโลกสมมติใหม่ ตัวละครใหม่ที่เพิ่มมา และฉากแอ็คชั่นตามสูตร ภาคนี้เหตุการณ์เกิดจากลูกกระพรวนของโดราเอม่อน (ที่ใช้การไม่ได้แล้ว) เกิดถูกขโมยไป เมื่อตามสืบก็พบว่ามันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ของวิเศษในโลกอนาคต ทีมงานทั้งหมดจึงบุกไปตามหาลูกกระพรวนนี้ ซึ่งก็ต้องปะทะกับจอมโจร DX
ข้อดีของภาคนี้คือการวางโครงเรื่องให้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวิเศษ ทำให้เนื้อเรื่องสามารถเรียกของวิเศษที่เราคุ้นเคยออกมาปรากฏได้ตลอดเรื่อง และหลายชิ้นก็มีบทบาทอยู่มาก อารมณ์เล่าเรื่องหลายครั้งคล้ายการ์ตูนนักสืบ แอบทิ้งให้มีประเด็นลึกลับคาใจ และจบด้วยพลอตหักมุมเล็กน้อย
หนังยังเปิดจังหวะให้ยิงมุขแบบเป็นคอมโบได้เป็นระยะ แม้อาจจะฮาหรือไม่ฮานั่นก็แล้วแต่อายุของผู้ชม (หึๆ) ฉากซึ้งดราม่าในภาคนี้ไม่ได้ถูกเน้นออกมาเล่นมากนักเมื่อเทียบกับหลายตอนก่อนหน้า
ปัญหาของโดราเอม่อนฉบับภาพยนตร์ยุคหลังที่ไม่มีอาจารย์ฟูจิโกะเอฟฟูจิโอะร่วมแต่งเนื้อเรื่องแล้ว ก็คือการขาดความฝันจินตนาการระดับเพ้อสุดขั้น และธีมเรื่องที่มีมิติสมกับเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ ภาคนี้ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน แต่มันยังเป็นความบันเทิงประจำปีที่ดีสำหรับแฟนๆ และกลุ่มคนดูเด็กครับ