Depart’Cher เป็นคอนเสิร์ตจบการศึกษา (Graduation Concert) ของเฌอปราง กัปตันวง BNK48 ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2023 ที่ธันเดอร์โดม ซึ่งไปร่วมชมและอยู่ในบรรยากาศของคอนเสิร์ตนี้มา

ออกตัวก่อนว่าไม่ได้โอชิหรือติดตามเฌอปราง ตอนแรกไม่มีแผนไปดูด้วย แต่พอคอนเสิร์ตจัดต่อจาก Grammy RS HIT100 พอดี ก็เลยตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะ แล้วมองว่าคอนเสิร์ตนี้มีลักษณะเป็นจิ๊กซอสำคัญสำหรับคนที่ติดตามวงมา (เราต้องสร้างสตอรี่เพื่อเข้าข้างตัวเองหน่อย) ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินทางของกัปตันวง คนที่เป็นเหมือนศูนย์รวมทุกอย่างในวง และอะไรต่อมิอะไร ก็เลยสรุปเองว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไรก็ควรค่าแก่การมาดูอยู่ดี รวมทั้งมาลุ้นเล็ก ๆ ว่าจะมีสมาชิกรุ่น 1 มาร่วมเป็นแขกรับเชิญ เพื่อต่อจิ๊กซอนี้ต่อจากคอนเสิร์ต 1st Gen (ที่….เฮ้อ….) หรือไม่

จริงๆ ก่อนมาดูคอนเสิร์ตก็โลเลอยู่มาก เพราะนับตั้งแต่โอชิของตนเอง (เจนนิษฐ์) จบการศึกษา ก็ไม่ได้มาดูงานการแสดงคอนเสิร์ตของวง พูดตรงๆ คือ เข็ดมาก แต่มิตรสหายที่ยังตามไปงานต่างๆ ยืนยันว่าบทเรียนจากคอนเสิร์ต 1st Gen ทำให้มีการปรับปรุงหลายส่วนไปมาก เรื่องที่ไม่ดีโดยเฉพาะการจัดการเวที-ระบบต่างๆ จากคอนรุ่น1 ไม่พบอีกแล้วในคอนจากนั้น การแสดงความมั่นใจของเฌอปรางหลายครั้งกับแฟนคลับว่ารายละเอียดทุกอย่างถูกเก็บตรวจสอบเป็นอย่างดี ก็น่าจะทำมั่นใจว่ามันจะเป็นเวลาที่มีค่าในการรับชม

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนะ

คอนเสิร์ตเริ่มต้นตรงเวลา 15:00น. (ชื่นชมแรกก็มาแล้ว) ด้วยเฌอปรางคนเดียวกลางเวลากล่าวทักทายผู้ชมเพื่อเข้าสู่การเดินทางจากนี้ เริ่มเพลงแรกคือ Hajimete no Hoshi (ดาวดวงแรก) ซึ่งมาทราบภายหลังว่าทั้งเพลงและฟอร์แมตถูกวางมาเหมือนกับเพลงเปิดคอนเสิร์ตจบการศึกษาของ Yamamoto Sayaka แห่ง NMB48 โอชิของเฌอปราง นั่นคือเฌอปรางโซโลช่วงแรก จากนั้นสมาชิกอีก 6 คนก็ปรากฏด้านหลัง

คอนเสิร์ตเริ่มแจกเซอร์ไพรส์กันตั้งแต่เพลงแรก เมื่อ 6 สมาชิกของ BNK48 1st Gen ได้แก่ เจนนิษฐ์ ปูเป้ ปัญ ตาหวาน โมบายล์ มิวสิค ปรากฏตัวร่วมร้องเพลงนี้ จากนั้นสมทบด้วยซีนเล่นใหญ่ของสมาชิก BNK48 ปัจจุบันทุกคนบนเวที ก็จบเพลงแรกไป

มีคนอธิบายภายหลังว่าซีนที่ 6 อดีตสมาชิกยืมแล้วเฌอปรางเดินกลับไปหานั้น เหมือนกับตอนจบคอนเสิร์ต 1st Gen แต่ตอนนั้นเฌอปรางเดินออกมาเพื่อส่งสมาชิก ฉากนี้จึงเหมือนการมารอรับอะไรแบบนั้น

คอนเสิร์ตเดินทางต่อด้วยเพลงสเตจ Saishuu Bell ga Naru ของ BIII ตามด้วย Yuki no Hammer ของ NV จากนั้นต่อด้วยเพลงหลัก Shonichi และ Aitakatta ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพักเบรกแรก

เข้าสู่ช่วงสอง กับโชว์ยูนิตที่มีเฌอปรางร่วมแสดงแต่ละเพลงทั้ง เปิดมาให้เซอร์ไพรส์ต่อด้วย Tomodachi ja nai ka? เพลงจากงานเลือกตั้ง World Sembatsu ที่เฌอปรางติดอันดับ มาแบบภาษาไทยครั้งแรก จากนั้นต่อด้วย Hatsukoi yo Konnichiwa ฟีเจอริ่ง วี-จีจี้, Tomodachi ร่วมร้องด้วยอิซึรินะและมิโอริ, Kimi no koto ga suki dakara ที่ให้ซัทจังได้ยืนเซนเตอร์เพลงนี้อีกครั้ง แล้วแจกเซอร์ไพรส์กันต่อด้วยเพลงไม้ตายมาทีไรก็กรี๊ดกร๊าดทุกที Oshibe ที่ได้ป๊อปเปอมาแย่งชิงพี่เฌอกับแขกพิเศษ Mao Weija จาก AKB48 Team SH ซึ่งเล่นใหญ่สนุกมาก

เบรกสักครู่เพื่อให้ Mao Mao ได้แจกความสดใสกับคนดู (ฮา) จึงเข้าสู่ช่วงที่สาม เริ่มด้วย Beginner เพลงที่เฌอปรางได้เป็นเซนเตอร์จากงานเลือกตั้ง GE1, RIVER ที่ได้ อร กับ น้ำหนึ่ง มาเซอร์ไพรส์ ตามด้วย สายซับ ที่นอกจาก ปัญ โมบายล์ จะปรากฏตัวอีกครั้ง แก้ว ก็มาร่วมร้องด้วย

เพลงถัดมาแจกเซอร์ไพรส์แบบจริงจังด้วย Iiwake Maybe เพลงซิงเกิ้ลที่ 13 ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลหลังการจบการศึกษาชุดใหญ่ของรุ่น 1 เลยจัดให้ด้วยเวอร์ชันพิเศษเป็นสมาชิกรุ่น 1 ยกทีม รวมทั้งเจนนิษฐ์ ส่วนที่ดีของการจัดโชว์เพลงนี้คือให้สมาชิกปรากฏตัวทีละคน เอาแบบไม่ต้องสงสัยว่าใครมาบ้างกันเลย รวมทั้งมิวสิคก็มาเป็นเซนเตอร์เพลงนี้อีก

ซีนเปิดให้พื้นที่สมาชิกรุ่น 1 เต็มที่

เข้าสู่ช่วงพักเบรกยาวๆ ด้วย MC ตามด้วย Only Today เวอร์ชันพิเศษเรียกเสียงฮา ปูเป้ขโมยซีนเด่นมาก

เดินทางสู่ช่วงที่ 4 แบบพอจะเดาทางได้ด้วยเฌอปรางร้องเพลงประจำรุ่น ไล่ตั้งแต่ Shoujotachi Yo กับสมาชิกรุ่น4, First Rabbit กับรุ่น3, Tsugi no Season กับรุ่น 2 จากนั้นเป็นช่วงสมาชิกทั้งวงลงพบปะเล่นกันคนดูกันยาวๆต่อเนื่องหลายเพลง ก่อนจะจบท้ายด้วยอุบัติเหตุไฟไหม้ที่ลำโพงแขวน ซึ่งสตาฟก็แก้ไขปัญหารวดเร็วมาก ปลอดภัยทุกฝ่าย ก่อนจะจบเบรกนี้และโชว์หลักด้วย 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ

มาถึงช่วงอังกอร์ เฌอปรางเริ่มต้นด้วยเพลงพิเศษภาษาไทยที่แต่งมาสำหรับคอนเสิร์ตนี้ ด้วยเนื้อหาเพลงและอะไรก็ตามอุณหภูมิความซึ้งก็เริ่มมากขึ้น จากเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ต่อด้วย Jiwaru Days เพลงประจำรุ่น1 ที่คราวนี้ขนสมาชิก 1st Gen มาร่วมแสดงเกือบครบทุกคน ขาดเพียง เคท ซินซิน และแจน เท่านั้น

คอนเสิร์ตปิดท้ายด้วยสมาชิกทั้งหมดรวมทั้งรุ่น1 เริ่มที่ Tsuyosa to Yowasa no Aida de และ Sakura no Hanabiratachi แล้วเข้าสู่เซอร์ไพรส์ด้วยคลิปแสดงความยินดีจากเมมเบอร์ต่างประเทศซึ่งรวมทั้ง Okada Nana และ Yamamoto Sayaka จากนั้นจบคอนเสิร์ตส่วน Depart’Cher อย่างเป็นทางการด้วยเพลง สัญญานะ

มีกิมมิคเล็กๆ ที่ชอบใจคือ VTR หลังจบคอนเสิร์ตช่วงแรก ที่เฌอปรางเดินไปหลังเวที (ซึ่งคลิปถ่ายทำก่อนในชุดเดียวกับคอนเสิร์ตด้วยนะ) เพื่อเปิดตัวว่าตอนนี้เข้าสู่บทบาทใหม่ในฐานะ ฌิไฮนิน แล้ว

หลังจากนั้นเป็นการแสดงครั้งแรกของซิงเกิ้ล 15 Kibouteki Refrain ตามด้วยประกาศเซอร์ไพรส์คนดูอีกหลายอย่าง ซึ่งจะข้ามส่วนนี้ไป

อย่างที่บอกตอนแรกว่าความคาดหวังคือการดูจิ๊กซอชิ้นถัดมาของวงนี้ คอนเสิร์ตที่เรื่องราวคือเมมเบอร์รุ่น 1 ที่จบการศึกษาไปก่อนหน้าเกือบ 1 ปี จะมาร่วมต้อนรับพี่เฌอออกเดินทางไปด้วยกัน การได้เห็นเมมเบอร์รุ่น1 รวมตัวกันอีกครั้งในลุคใหม่ก็เป็นอะไรที่แปลกตาดี มวลอารมณ์และความต่อเนื่องของคอนเสิร์ตถูกปรับปรุงไปมาก มีหลายอย่างที่อยากชื่นชมทั้ง flow ของเพลงต่อเพลงที่ไหลลื่น มีจังหวะสะดุดนิดเดียวจนไม่รู้สึกขัดใจ (ซึ่งเป็นสิ่งที่คอน 1st Gen มีเยอะมาก) รวมถึง MC ที่ควบคุมเวลาไม่เยิ่นเย้อ หวังว่างานถัดๆไปจะยืนบนมาตรฐานนี้ เพราะมันทำให้คนดูแฮปปี้จริงๆ

ป.ล. เจนนิษฐ์ก็คือเจนนิษฐ์คนเดิมที่ดึงซีนและโดดเด่นบนเวทีได้เหมือนเช่นเคย 55+