Doraemon: Nobita’s Art World Tales

Doraemon: Nobita’s Art World Tales หรือชื่อภาษาไทย โดราเอมอนเดอะมูฟวี่: เรื่องราวในโลกภาพวาดของโนบิตะ เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ลำดับที่ 44 ของปี 2025 สำหรับประเทศไทยยังคงกำหนดฉายแบบทิ้งช่วงจากญี่ปุ่นเหมือนเดิมคือเดือนตุลาคม (เลื่อนก็ได้นะ โคนัน ไยบะ เขาเลิกวางโปรแกรมรอปิดเทอมกันแล้ว) ปีนี้นอกจากเข้าธีมฉลอง 45 ปี โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์แล้ว ผู้จัดจำหน่ายในไทยยังเปลี่ยนมาเป็น PHOENIX NEXT ทำให้แผนการตลาดเปลี่ยนไป และเล่นใหญ่มากกว่าเดิมมาก (ดี!)

งานนิทรรศการ Doraemon Movie 45 ปี ที่เมเจอร์รัชโยธิน เล่นใหญ่มาก

โดราเอมอนภาคนี้มาพร้อมธีมยุโรปยุคกลาง เนื้อเรื่องคือของวิเศษใหม่ ไฟฉายเชื่อมภาพที่ทำให้เราสามารถเข้าไปผจญภัยในโลกของภาพวาดได้ นำพาแก๊งโดราเอมอนไปพบกับโลกของราชรัฐอาร์โตเรีย ที่ปรากฏในภาพซึ่งกำลังเป็นข่าวในโลกปัจจุบัน ที่นั่นทั้งหมดได้พบกับ แคลร์ เด็กสาวสดใสร่าเริง พร้อมกับตัวละครที่มีปริศนาเบื้องหลัง พร้อมกับการต่อสู้เมื่อราชรัฐอาจกำลังล่มสลายจากเหตุไม่คาดฝัน

อย่างที่เขียนในรีวิวโดราเอมอนภาพยนตร์ทุกภาค ว่าเนื้อเรื่องจะเดินตามสูตรคือ ทำอะไรสักอย่าง เดินทางสู่พื้นที่ใหม่ พบเพื่อน เมืองมีปัญหาจึงต้องร่วมกันแก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้ พลอตของภาคนี้ยังคงอยู่ในสูตรสำเร็จนี้ โดยเส้นเวลาฉีกไปจากภาคอื่นเพราะเป็นโลกที่อยู่ในภาพวาด ที่ไม่เคยถูกค้นพบหรือมีจริง

ตัวละครแคลร์ถูกออกแบบมาให้ lively เมื่อเทียบกับตัวละครเพื่อนใหม่ในหลายภาค มีความกวนและน่าจดจำ ขณะที่ไมโลซึ่งปกติคาแรกเตอร์นี้จะเป็น “เพื่อนใหม่โนบิตะ” ประจำภาค ถูกลดบทรองลงมาแทน ก็ถือเป็นเรื่องฉีกไปจากขนบของโดราเอมอนมูฟวี่ที่ดี เพราะเชื่อว่าตัวละครแคลร์คนดูน่าจะหลงรักได้ง่ายกว่า

โดราเอมอนมูฟวี่ภาคนี้ใช้เวลาไม่นานเพื่อเริ่มเปิดจุดหักมุมทีละส่วน แม้ไม่ใช่มุกใหม่อะไร แต่ก็ทำงานได้ผลดีตามสเต็ปของเรื่อง ช่วง 20 นาทีสุดท้าย หนังใส่แอ็คชันแบบไม่ยั้ง และไม่เบามือด้วย ขณะที่ของวิเศษถูกงัดมาสู้แบบเต็มที่เช่นกัน เรียกว่าถ้าชอบแนวแฟนตาซีล้ำ ภาคนี้สู้กันจนฉากสุดท้ายเลย แถมตอนท้ายเรื่องยังพลิกอีกครั้งให้ซึ้งเศร้าได้ผลดีด้วย

มองว่าเป็นโดราเอมอนมูฟวี่ตอนใหม่ที่วางเนื้อเรื่องได้ดี สนุก มีครบทุกรส (ดีกว่าภาคที่แล้วมากกกก) ส่วนปีหน้า 2026 โดราเอมอนจะกลับมารีเมกอีกครั้ง และเป็นหนึ่งในตอนที่ชอบมากนั่นคือ “ผจญภัยใต้สมุทร” (อย่างน้อยก็รู้จักสามเหลี่ยมเบอมิวด้าจากการอ่านม่อนนี่แหละ) และเป็นตอนที่ครบรสมาก ก็รอรับชมกันต่อไป