แดนสาป – The Cursed Land

(ช่วงแรกไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญ)

แดนสาป (The Cursed Land) เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ ซึ่งมีธีมหลักว่าด้วยเรื่องเร้นลับในชุมชมมุสลิม ซึ่งมีหนังไทยที่เคยเล่นประเด็นนี้มาบ้างแล้ว

หนังเล่าเรื่องราวของ มิตร (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) คุณพ่อที่ย้ายมาพักอาศัยในบ้านเช่าที่บริษัทจัดหาให้ย่านหนองจอก โดยพาลูกสาว เมย์ (เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) มาอยู่ด้วย หนังไม่ได้เล่าเรื่องราวพื้นหลังของตัวละครมากนัก แต่ใช้วิธีค่อย ๆ เปิดเผยไปตลอดเรื่อง ในช่วงแรกคนดูได้รับรู้ว่าคุณแม่นั้นไม่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น

บ้านที่ทั้งสองมาพักอาศัย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชุมชนมุสลิม ดูจะมีความเร้นลับบางอย่างซ่อนอยู่ และสถานการณ์ก็ดูซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนพาทั้งมิตรและเมย์ รวมทั้งเพื่อนบ้านที่ดูชวนสงสัยอย่างรอฮิม (บรอนท์ พาลาเร่) เข้าสู่โลกที่ลึกลับ ต้องคำสาป และมีที่มาที่ไปข้างหลัง

หนังใช้เวลาครึ่งแรกพาคนดูสู่โหมด คนพุทธที่มาอาศัยในชุมชมมุสลิม มิตรวางตัวเป็นคนที่ระแวง ไม่ไว้ใจ กับสิ่งต่าง ๆ ที่เห็น ส่วนเมย์ เป็นคนที่พร้อมผูกมิตรกับทุกคน ขณะเดียวก็สับสนหรือรู้เบื้องหลังว่าอะไรที่พ่อเก็บงำไว้ในใจอยู่ ซึ่งปมต่าง ๆ ค่อยเปิดเผย

ครึ่งหลังของหนัง เริ่มพาคนดูเข้าสู่เนื้อหาที่เร้นลับขึ้น จากครึ่งแรกที่อาจทำให้รู้สึกว่าตัวละครต่าง “คิดไปเอง” ก็ใส่น้ำหนักสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกินคำอธิบายเข้ามา หนังใช้เวลาช่วงนี้พาคนดูไปรู้จักเรื่องเร้นลับของมุสลิมอย่าง ญิน ทั้งยังอธิบายการกระทำของตัวละครที่ส่งผลเกิดเรื่องไม่ปกติต่าง ๆ

ในที่สุดหนังก็หาทางจบเรื่องราวได้อย่างสันติที่สุด เพื่อสื่อสารว่าหากเราเคารพสิ่งต่าง ๆ กัน ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้

อนันดาที่รับบทคุณพ่อซึ่งมีความลับและเจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีต เป็นตัวละครนำหลักพร้อมพาคนดูไปสู่เรื่องลี้ลับ แม้หลายการกระทำจะงง ๆ ว่าสุดท้ายคืออะไร และหนังก็ไม่ได้พยายามสื่อสารตรง ๆ ทิ้งพื้นที่ให้คนดูเดาเสียมาก ขณะที่เจนนิษฐ์ ในบทเมย์ ลูกสาวที่รับรู้ปัญหาในครอบครัว และพยายามอยู่ดูแลพ่อในเรื่องต่าง ๆ ให้มากที่สุด ในเรื่องนี้ยังคงมีซีนทะเลาะกับพ่อ และซีนร้องไห้แบบสติแตกเป็นซิกเนเจอร์ต่อไป (ฮา)

(ส่วนนี้สปอยล์เนื้อหา)

ส่วนที่คิดเองว่าน่าเสียดายคือแกนหลักที่หนังอยากสื่อ คือประเด็นความรุนแรงในภาคใต้ หนังเลือกย้อนเวลากลับไปแบบไม่บอก พ.ศ. แต่ใช้บริบทบอกอ้อม ๆ เช่นการเล่น MSN หรือเสียงข่าววิทยุ ว่าเป็นประมาณ 20 ปีที่แล้ว เมื่อขมวดกลับเรื่องราวที่แฟลชแบ็กในอดีตของระบบค้าทาส และประเด็นหลักที่วนเวียนเรื่องของ “บ้าน” และ “คนใหม่ที่เข้ามา” ก็ทำให้เป็นสัญลักษณ์ที่ดีที่หนังอยากสื่อสารและชวนคิดแบบไม่มีข้อสรุปชัดนัก แต่อย่างที่บอกว่าหนังก็ได้หาทางจบในแง่เราสามารถอยู่ร่วมกันและเคารพตัวตนของแต่ละคนได้