[รีวิว] Doraemon The Movie 2016: โนบิตะกับกำเนิดญี่ปุ่น

หลังจากให้แฟนๆ โดราเอมอนอยู่ภาวะว้าเหว่มาปีกว่า เนื่องจากโดราเอมอน ฉบับภาพยนตร์ฉบับปี 2015 ไม่ได้เข้าฉายในไทย (เคยเขียนรีวิวตอนดูบนเครื่องบิน) ตอนนี้โดราเอมอนก็กลับมาโลดแล่นบนจอเมืองไทยแล้ว ในตอนของปี 2016 แม้จะเลทสักหน่อย โดยเปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายจาก Rose เป็นกันตนาโดราเอมอนเวอร์ชันนี้เป็นของปี 2016 ชื่อตอน Nobita and the Birth of Japan 2016 ถือเป็นตอนที่ 36 ของซีรี่ส์ภาพยนตร์โดราเอมอน เนื้อหาในตอนนี้รีเมกจากตอนกำเนิดญี่ปุ่นของปี 1989  ซึ่งถือเป็นตอนที่สนุกมากๆ ตอนหนึ่ง และผลตอบรับของเวอร์ชัน 2016 นี้ก็ดีมาก โดยเป็นตอนที่ทำเงินสูงสุดในซีรี่ส์ หากไม่นับ Stand By Me ส่วนตัวคิดว่าภาพยนตร์ของปี 2017 ซึ่งจะฉายที่ญี่ปุ่นเดือนมีนาคม ไม่น่าจะแซงได้ด้วย

โดราเอมอน ตอน โนบิตะกับกำเนิดญี่ปุ่น ว่าด้วยเมื่อตัวละครหลักทั้ง 5 เกิดอยากหนีออกจากบ้านพร้อมกัน จึงไปจบที่การใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 70,000 ปีก่อน พล็อตที่เหลือก็ตามสูตรหนังโดราเอมอน นั่นคือ ต้องไปเจอเพื่อนใหม่ในดินแดนนั้น จากนั้นมีประเด็นคือเพื่อนใหม่กำลังต่อสู้กับตัวร้าย และโดราเอมอนพร้อมผองเพื่อนก็ร่วมมือกันต่อสู้กับคนร้าย จบปิ๊ง!

ถ้าให้เดาว่าทำไมตอนนี้จึงได้รับความนิยม ก็น่าจะเป็นเพราะโครงเรื่องแนวสร้างเมือง สร้างอาณาจักร มีแบ่งกระทรวง แบ่งหน้าที่ แถมยังโชว์ของวิเศษที่จัดออกมาเป็นชุด เรียกกันออกมาตลอดทั้งเรื่อง

ไฮไลท์สำคัญของเวอร์ชันที่ฉายในไทยตอนนี้ก็คือการกลับมาพากษ์เสียงไจแอนท์ของน้าต๋อยอีกครั้ง ส่วนตัวละครอื่นยังใช้ทีมเดิมครบ ซึ่งคุมโทนได้ดีไม่เสียอรรถรส

เนื้อหาหลังจากนี้มีสปอยล์ เนื่องจากจะเทียบเวอร์ชันเก่ากับใหม่






พล็อตสูตรที่ทำให้โดราเอมอนมูฟวี่รุ่นหลังเส้นเรื่องวนเวียนมาก คือการให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นกับ “เพื่อนใหม่” ซึ่งภาคนี้ก็คือคูคุรุ ในเวอร์ชันเดิมนั้นเป็นการผจญภัยของเพื่อน 5 คน และคูรูรุคือส่วนเสริม แต่ในภาคนี้คูรูรุมีบทบาทยาวจนถึงฉากต่อสู้ ซึ่งผลก็คืออารมณ์ดราม่ามิตรภาพเพื่อนรักในหนังที่มากขึ้น อันนี้แล้วแต่ว่าชอบไม่ชอบ ส่วนตัวคิดว่าพล็อตมันสูตรไปหน่อย สู้ๆ กันอยู่ แล้วคูรูรุพุ่งมากระโดดใส่พลาสมาบอลนี่มันแบบ….เอ้ย!

อีกอย่างสิ่งที่ขัดใจมากของภาคนี้คือฉากการปล่อยรถหาผู้ประสบภัย ตอนที่โดนบิตะติดพายุหิมะ ภาคนี้ปล่อยแล้วก็หายจบจมไปเลย ขณะที่ภาคเดิมนั้นถ้าจำกันได้ โนบิตะจะพบแมมมอธที่ให้ยาทาน และส่งผลให้ตำรวจอวกาศหาโดราเอมอนเจอในตอนจบ ภาคใหม่ไม่มี และใช้พล็อตอื่นในการค้นพบเจอก็เลยงงๆ ส่วนนี้ไป

ฉากแมมมอธที่มาเจอโนบิตะในพายุหิมะ ของเวอร์ชันเก่า

ประโยคเด็ดของภาคนี้ยังคงเก็บไว้เล่นนั่นคือ “แต่นี่คืออาวุธจากศตวรรษที่ 23” เพราะเป็นประโยคที่บ่งบอกว่า โดราเอมอนเจองานยากแล้ว

สุดท้ายต้องขอบคุณที่กันตนายังนำโดราเอมอนมาให้ได้ชมในโรงภาพยนตร์ ถึงแม้ปีนี้จะไม่มีชุด Happy Meal ออกมาด้วยก็ตามครับ (ฮา) ส่วนตอนของปี 2017 ผจญภัยดินแดนน้ำแข็งแอนตาร์กติก ซึ่งเป็นตอนเขียนใหม่ทั้งหมด ก็ยังคงรอชมกันต่อไป