ความสำเร็จมหาศาลของ Squid Game ซีรีส์แนวระทึกขวัญจากเกาหลีใต้ จึงไม่แปลกที่ Netflix ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนการสร้าง จะสร้างซีซันที่ 2 ของซีรีส์นี้ (และต่อไปถึง 3 ด้วย) แม้ตัวเรื่องในซีซันแรกจะสามารถจบในตัวได้แล้วพอสมควร

Squid Game ซีซัน 2 จึงมาพร้อมกับการตลาดแบบ 360 คอลแลบกับสินค้ามากมายทั่วโลก มีพรีเซนเตชันใหญ่ เรียกว่าเป็นโปรเจกต์ยักษ์สมศักดิ์ศรีของ Netflix ส่งท้ายปี เพราะซีรีส์ก็เข้าแพลตฟอร์มเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็คงตอบแบบที่มิตรสหายหลายท่านพูดคล้ายกัน คือเมื่อได้ดูซีซันแรกไปแล้ว ก็คงต้องตามดูซีซัน 2 ต่อหน่อย ว่าเนื้อเรื่องจะเดินไปทิศทางไหน และเมื่อซีรีส์ถูกไฮป์มากขนาดนี้ ก็จำเป็นต้องไล่ดูให้จบ 7 ตอนอย่างรวดเร็วที่สุด

เรื่องที่เปิดเผยของซีซัน 2 คือ กีฮุน ผู้ชนะเกมในซีซันแรก ตัดสินใจกลับเข้าร่วมเกมการแข่งขันนี้อีกครั้ง พร้อมหมายเลขเดิม 456 บนเป้าหมายที่แตกต่างไปรอบที่แล้ว เพราะเขาไม่ได้เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้น เงินรางวัล 4.56 หมื่นล้านวอนก็ยังใช้ไม่หมด ภาคนี้จึงมาพร้อมผู้แข่งขันใหม่ที่เหลือทั้งหมด บนเรื่องราวปูมหลังที่แตกต่างออกไป

นั่นคือเรื่องย่อ ส่วนจากนี้เป็นมุมมองของ 7 ตอนในซีซัน 2 ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนด้วย

เนื้อหาจากนี้มีสปอยล์เนื้อหาสำคัญ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สิ่งที่แตกต่างออกไปมากของ Squid Game ซีซัน 2 คือโครงสร้างการเดินเรื่องที่ไม่เหมือนภาคแรก หนังไม่ได้เล่าเรื่องของกีฮุน ที่เข้าร่วมเกมและพยายามผ่านไปแต่ละด่าน พร้อมรู้จักผู้คนในเกมการแข่งขัน เรื่องนี้เลยทำให้คนที่คาดหวังจะเห็นระบบของ “เกม” หรือ Tension ในเกมต่าง ๆ แบบที่ภาคแรกทำไว้ ก็น่าจะผิดหวังอยู่ แต่ผมไม่ได้ประทับใจลักษณะเกมตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว ก็อาจคาดหวังน้อยหน่อย

Squid Game 2 เลือกเล่าเรื่องในหลายแกนของแต่ละตัวละคร ว่าแต่ละคนมาอย่างไร ต้องการอะไร และซ่อนอะไรเอาไว้ (เพื่อรอเฉลยในภาค 3) ผลคือมิติตัวละครต่าง ๆ ก็มีในอีกรูปแบบนั่นแหละ จะชอบหรือไม่ชอบมันก็เป็นข้อจำกัดของเนื้อเรื่องแบบนี้

ส่วนของเกม อาจบอกได้ว่าเล่นน้อยแต่มาก แถมใช้ทวิสต์ช่วยเสริมพลัง โดยในภาคนี้จบแบบค้างคาไว้ที่ 3 เกม เลือกทำซ้ำเฉพาะเกมแรกปิดตาเดิน เพื่อปูเนื้อเรื่องเพิ่มพลังให้กีฮุน จากนั้นใส่ทวิสต์สำคัญ O-X ทำให้การเดินเรื่องวุ่นวายมากขึ้นโดยยังไม่ต้องไปถึงแต่ละเกม ขณะที่เกม 2-3 ก็กดดันตามที่สภาพเกมทำได้ และอาจบอกได้ว่าใช้ดวงน้อยลงเยอะ

พอถึงตรงนี้เลยพบว่า Squid Game 2 อาจใช้สูตรภาคต่อด้วยการ เดินแบบเดิม ใส่สิ่งที่คนดูชอบเข้าไป แล้วเป็นรสชาติใหม่ก็ได้ แต่ทีมผู้สร้างเลือกขยายจักรวาลเรื่องออกมาแทน เพราะหลายอย่างคนดูสามารถคาดเดาได้ (คืออย่างน้อยกีฮุนก็คงไม่ชิงตายตั้งแต่ช่วงแรกแน่) เลยกลายเป็นทิ้งปมเอาไว้หลายอย่าง แม้จะขัดใจอยู่บ้างก็ตามที

ที่ชื่นชอบมากคือฉากของแต่ละเกมยังคงเนรมิตได้อลังการ สวยงาม ขี้เล่น และจบแบบเลือดสาดเช่นเคย มั่นใจว่าเกมที่ 3 จับกลุ่ม ซึ่งไม่ได้เป็นของใหม่อะไร เกมงานสัมมนา-รับน้อง ในไทย ก็เล่นกันอยู่แล้ว จะถูกปรับมาให้ดุดันขึ้นเพราะ Squid Game สาธิตวิธีให้ดูแล้ว (ฮา)

ชอบน้อยกว่าภาคแรก แต่ลงเรือมาขนาดนี้ก็ต้องไปรอภาค 3 ให้หายข้องใจนั่นแหละ