ในอเมริกา format รายการทีวีแบบหนึ่งที่อยู่คู่ Major Network มานานคือ Late Night Talk Show โดยมีมาตรฐานคือออกอากาศช่วงดึก หลังสี่ทุ่มเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามรายการรูปแบบนี้กำลังถูกท้าทายหนักขึ้นเรื่อย ๆ
รายการฟอร์แมตนี้ที่ผมตามดูอยู่ประจำตามโอกาสตอนนี้คือ Late Late Show with James Corden ซึ่งฉายทางช่อง CBS ที่อเมริกา ส่วนเราก็อาศัยดูคลิปทาง YouTube ไปเรื่อย ซึ่งปีนี้ Corden ประกาศไม่ต่อสัญญา และรายการก็จะออนแอร์ตอน Finale สัปดาห์นี้ ซึ่งตามปกติการตามทอล์คโชว์แนวนี้ สิ่งที่อยากรู้ก็คือ พิธีกรจะไปทำอะไรต่อ กรณีของ Corden เดาได้ไม่ยากคือกลับอังกฤษ แต่อีกคำถามคือ ใครจะเป็นพิธีกรคนใหม่?
ที่น่าสนใจคือข่าวล่าสุดบอกว่า CBS มีแนวโน้ม “ไม่หาพิธีกรใหม่” มาแทนที่สลอตรายการ Late Late Show โดยเปลี่ยนไปทำรายการแนวอื่นแทนเลย ทำให้เหลือทอล์คโชว์ในช่องเพียง Late Show with Stephen Colbert
รายการ Late Night Talk Show เป็นรูปแบบรายการที่ very very American กล่าวคือรายการแนวนี้คิดค้นขึ้น เพราะสถานีโทรทัศน์ต้องการรันรายการรอบดึกขายโฆษณา บนมีเงื่อนไขคือ low cost ในการผลิต ทำให้คำตอบคือ รายการในสตูดิโอ พิธีกรหนึ่งคน แขกรับเชิญหมุนเวียน วงดนตรีร้องเพลงท้ายรายการ มุกตลกยิงตลอดรายการตามสถานการณ์ช่วงนั้น รายการประเภทนี้ทำให้พึ่งพาทักษะพิธีกรสูงมาก รวมทั้งกองทัพทีมเขียนบทเพื่อรันรายการออกมา แต่โปรดักชันก็ค่อนข้างควบคุมได้
ที่ผ่านมาฟอร์แมตนี้ได้ผลดี แต่ช่วงหลังความท้าทายคือเรตติ้งที่ลดลง เพราะคนมีทางเลือกไปดูอย่างอื่น (อันนี้มาตรฐานที่ไหนก็เป็น) แต่เมื่อกดดันด้วยเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลง โดยเฉพาะโควิดที่มาเร่งเครื่องซ้ำ ต้นทุนการผลิตเพิ่ม Late Night Talkshow จึงเริ่มไม่ใช่รายการที่ทุนต่ำ และทำเงิน แต่ทุนแพงขึ้น และทำเงินน้อยลง
กรณีของ Corden ซึ่งอาจรวมอีกคนคือ Jimmy Fallon ทั้งคู่เลือกทำคอนเทนต์ในทิศทาง “เป็นไวรัลโซเชียล” เป็นการทดสอบว่ารายการแบบนี้ จะมีที่ทางของมันได้ในยุคนี้ Corden นั้นสำเร็จดีมากจาก Carpool Karaoke ที่ต่อยอดเป็นรายการใน Apple TV+ ได้อีก ปัญหาคือสุดท้ายตัวรายการก็เป็นการลงทุนที่เริ่มไม่คุ้มสำหรับสถานีอีกนั่นแหละ
บทความใน Variety ก็ให้มุมมองที่โหดขึ้นอีกว่า กรณีละคร สตรีมมิ่งก็ทดแทนได้ แต่พอเป็นทอล์คโชว์แนววาไรตี้ อันนี้สตรีมมิ่งแทนที่ไม่ได้ เพราะอายุรายการมันสั้น Netflix ก็ทดลองมาหลายครั้ง กลายเป็นว่าฟอร์แมตรายการคือสิ่งท้าทายไปเสียอย่างนั้น
How profitable remains a key question. As money gets tighter, executives begin to worry about costs. The move from watching TV programs on a specific night and at a specific time to binge-viewing a favorite on a streaming hub at moments of one’s own choosing has destabilized the TV economy, and Wall Street has put pressure on media giants to show profits as well as digital growth. Media CEOs now have “this intense focus on cost management and cash flow generation. There’s just such an appetite today to look at old standbys, whether it’s programming or even assessing entire dayparts and saying, ‘Does this meet our needs over the near term?’,” says John Harrison, who leads the Americas media and entertainment practice at EY. “Some of the late-evening and late-night dayparts could get caught up in that.”
อาจพูดได้ว่าน่าเสียดาย แต่กรณีแบบนี้ในไทยเราก็พิสูจน์ได้ว่า เกม หรือวาไรตี้ขนาดสั้น ที่เป็นช่วงในรายการทีวีแบบนี้ สามารถซอยออกมาเป็นรายการ YouTube ได้ หากถูกที่ก็พร้อมเป็นรายการระดับแสนถึงล้านวิวได้ไม่ยาก