Big 3 ของวงการร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่าร้าน Combini ประกอบด้วย 7-Eleven, Lawson และ FamilyMart แต่เมื่อไปฮอกไกโด เราจะพบร้าน Combini ที่ยืนเด่นสู้กับยักษ์ทั้งสามนั่นคือ SeicoMart

ร้าน SeicoMart ปัจจุบันยังเป็นบริษัท Private และมีจำนวนสาขาระดับ 1 พันสาขาต้นๆ (เทียบกับ 7-Eleven ญี่ปุ่น ที่เกือบ 2 หมื่นแล้ว) แต่อาศัยยึดพื้นที่โดยสาขาอยู่เฉพาะในภูมิภาคฮอกไกโด มีอีกเล็กน้อยในเขตคันโต ที่ไซตามะ และอิบารากิ แค่ 2 เมือง มองระดับประเทศนั้นเล็ก แต่ถ้าไปฮอกไกโดจะสัมผัสได้ว่า SeicoMart ไม่ธรรมดา

ประวัติน่าสนใจของ SeicoMart ก็คือเริ่มจากธุรกิจร้านจำหน่ายสุรา และผันตัวมาทำ Combini ตามกระแสนิยม แต่เมื่อเริ่มจากฮอกไกโดจึงอาศัยความเข้าใจพื้นที่ได้ดีมากกว่า Combini เจ้าอื่นที่มาจากโตเกียว ก็สามารถแข่งขันได้ โดยเน้นสินค้าที่พัฒนาจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในพื้นที่

ส่วนอื่นๆ SeicoMart ก็ขายสินค้าเหมือนร้านสะดวกซื้อทั่วไป อีกกลยุทธ์ที่ร้านใช้คือการเพิ่มแบรนด์ลูกชื่อ Hot Chef เป็นร้านย่อยด้านในอีกที ร้านนี้จะขายอาหารร้อนตามชื่อ มีเมนูข้าวกล่อง ข้าวปั้นร้อน ซึ่งร้านสะดวกซื้ออื่นไม่ได้ทำกัน และร้าน Hot Chef นี้ก็ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงตามด้วย แต่ดูเหมือนจะได้ผลดีเพราะไปๆ มาๆ Hot Chef ก็มีร้านแยกออกมานอก SeicoMart ได้อีก

ร้าน Hot Chef ที่อยู่ใน SeicoMart อีกที

ผมไม่มีตัวเลขว่า SeicoMart เฉพาะในฮอกไกโดเทียบกับคู่แข่งรายอื่นแล้วเป็นอย่างไร แต่จากที่เจอมา ก็เรียกว่าพบร้าน SeicoMart ได้ถี่พอๆ กับ 7-Eleven และ Lawson เลย เรื่องนี้อาจจะพออธิบายการเพิ่มกลยุทธ์แข่งขัน ของร้านค้าปลีกที่มีสาขาเฉพาะพื้นที่ในภูมิภาคต่างๆ ของไทย ที่บางเจ้าก็สามารถแข่งขันกับค้าปลีกรายใหญ่ระดับประเทศได้เช่นกันครับ หากมีกลยุทธ์ที่เหมาะสม

ภาพประกอบ หน้าร้าน SeicoMart จาก Flickr : webb790709