ไม่ได้เขียนบล็อกเที่ยวญี่ปุ่นนานมาก หลัก ๆ เพราะพอจะเขียนก็กลัวเนื้อหาล้าสมัยไปแล้ว คิดว่าช่วงนี้คนเริ่มกลับมาเดินทางมากขึ้น แล้วนี่ก็ไปมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็น่าจะพอย้อนบันทึกเผื่อใครผ่านมาอ่านได้นะ
พอโควิดทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักไป หลายประเทศทยอยเปิดแบบมีเงื่อนไข ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่เปิดช่วงแรกในเดือนตุลาคม 2022 แบบมีเงื่อนไข ข้อหลักคือวัคซีน 3 เข็ม เราก็ตัดสินใจหาตั๋วและที่พักทันที เพราะคิดว่าเงื่อนไขนี่แหละทำให้คนไม่ค่อยไปกัน (ฮา) ตอนนั้นญี่ปุ่นยังฝุ่นตลบงงๆ อยู่ ที่พักราคายังไม่แรงมากเท่าตอนนี้ สินค้าก็ยังไม่ขึ้นราคาตามเงินเฟ้อ มีแค่ตั๋วเครื่องบินที่แพงจริงจังมาก 25k-30k คือราคามาตรฐาน เพราะเที่ยวบินยังไม่กลับมา เกือบท้อใจแล้ว แม้ง้างรอเวลานี้มาหลายปี
…แล้วผมก็พบตัวเลือกที่ชื่อ ZipAir
ZipAir เป็นสายการบินโลว์คอสต์ ที่มี JAL เป็นเจ้าของ สายการบินเลือกรูท โตเกียว-กรุงเทพฯ เป็นเส้นทางแรกๆ ช่วงเปิดตัว แต่โชคร้ายที่สายการบินเริ่มดำเนินการปี 2020 ซึ่งโควิดมาพอดี แต่สายการบินก็ทำการบินอยู่เรื่อยๆ ในสภาพการเดินทางแบบกักตัว มีมาตรการเข้ม ทำให้ยังพอเห็นรีวิวบ้างตลอดช่วงเวลานั้น
ไม่ต้องคิดมาก ผมก็เลยเลือกไปโตเกียวด้วย ZipAir ด้วยเหตุผลสามอย่าง (1) ราคาน่าคบที่สุด ผมจองช้าไปหน่อยไม่ได้ราคา lowest แต่ก็รับได้ (2) สายการบินใหม่ เครื่องใหม่ มี JAL แบ็ค ก็น่าสนใจกว่าโลว์คอสต์อื่น และ (3) มี(ตอนนี้เป็นอดีต)ไอดอลวงนึงเคยไปรีวิวมาแล้วในช่วงที่เดินทางแบบมาตรการเข้ม
การจอง ZipAir
ผมแนะนำให้จองตรงกับเว็บของสายการบินไปเลยที่ https://www.zipair.net/th (ไม่แน่ใจมีช่องทางอื่นไหมนะ) เส้นทางตอนนี้จากไทย มีเส้นทางเดียวคือ กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ ไปกลับ โตเกียว ลงสนามบินนาริตะ ส่วนเวลาเดินทางตัวเลือกมีน้อย อาจจะมีช่วงฤดูท่องเที่ยวที่เพิ่มจำนวนไฟลต์ต่อวัน
Interface การเลือกอาจจะงงๆ หน่อย เริ่มจากเลือกทีละหน้า ว่าจะไปวันไหน กลับวันไหน มีราคา ‘เริ่มต้น’ กำกับมาให้ จากนั้นเป็นตัวเลือกไฟลต์ซึ่งก็มักมีแค่อันเดียว แต่ละไฟลต์เลือกประเภทที่นั่งซึ่งมี 2 แบบคือ Standard กับ ZIP Full-Flat ที่เคลมว่าเหยียดนอนราบได้เลย … ระดับเรามาขั้นนี้แล้ว Standard ก็พอครับ
เมื่อเลือกที่นั่ง จะเป็นการเลือกชุดบริการตามสไตล์โลว์คอสต์ ซึ่งตัวเลือกจะมาเป็นแพ็คเกจมัดให้ default ทุกคนจะได้สัมภาระแบบ Carry-on 7 กิโลกรัม 1 ชิ้น ก็ดูเอาตามสไตล์แต่ละคน จากนั้นก็เป็นขั้นตอนกรอกข้อมูล จ่ายเงิน ฯลฯ จบตามเรื่อง จะซื้ออาหาร-เลือกที่นั่ง หรืออื่นเพิ่มๆ เติม ก็ไปจ่ายเติมเอาภายหลังได้ ไม่ลงรายละเอียดมากแล้วกัน
ข้อมูลเสริมสำหรับ ZipAir ตัวใหญ่ควรทราบคือ น้ำหนักสัมภาระนั้นเข้มงวดมาก นับชิ้น จับชั่งจริงจัง และตัวที่เป็นประเด็นมากคือ ไม่มีเงื่อนไขเลื่อนวันเดินทาง ทิ้งตั๋วอย่างเดียว กรณีไฟลต์ยกเลิกก็ได้เป็น Refund เท่านั้น ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องประเมินเอง
ออกเดินทาง
ผมเดินทางช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้นยังไม่มีระบบเช็กอินออนไลน์ และสนามบินก็ยังไม่เปิดเต็มที่ ฉะนั้นเผื่อเวลามาก่อนก็เป็นสิ่งดี ตอนที่ไปใช้เวลาตรงเคาน์เตอร์ไม่นานมากนะ
ขาไป สุวรรณภูมิ จัดจุกๆ เกต E9 สุดปลายฟ้า…
ไฟลต์ที่ผมไป-กลับ คือ ZG52 กับ ZG51 ขาไปเป็นการเดินทางข้ามคืน ออกดึกถึงเช้า ฉะนั้นหลับให้ลงคือคำตอบ ส่วนขากลับเป็นออกบ่ายถึงค่ำก็จะหลับยากหน่อย ภาพรวมประสบการณ์ของ ZipAir
- มี WiFi ฟรี สปีดตอนผมเดินทางไม่แย่มาก ตอบ Teams, Slack, LINE ได้ ส่งรูปภาพก็ยังไหว วิดีโอไม่ได้ลอง
- ผมนั่ง Standard ระยะขาไม่กว้างมาก แต่ก็ไม่แคบแบบโลว์คอสต์ไปญี่ปุ่นค่ายอื่นที่เคยเจอ
- เจ้าหน้าที่บริการดี มีแต่คนญี่ปุ่น
- อาหารบนเครื่องที่ต้องจ่ายเพิ่ม ไม่เด่นจนต้องชม แต่ก็ไม่แย่มากมาย หน้าตาก็ประมาณนี้
ลืมแล้ว สั่งเมนูอะไร อย่างที่บอก รสชาติไม่แย่ แต่ไม่ได้ระดับอย่าพลาดต้องสั่ง กินแก้หิวครับ
สปีด WiFi บนเครื่อง ไม่ดีมาก พอส่ง text ได้
ส่วนตัว ZipAir คงเป็นช้อยส์ในการเดินทางแบบคุมงบ เป็นโลว์คอสต์ที่น่าพอใจในราคาและคุณภาพที่ได้สำหรับการไปโตเกียว เพราะตอนนี้มีรูทแค่เมืองนี้ ส่วนประเด็นเงื่อนไขจุกจิกนั้นถ้าเจอเองก็น่าจะวุ่นอยู่เหมือนกัน
จุดเช็กอินที่สนามบินนาริตะ
จบเรื่องการเดินทางด้วย ZipAir เท่านี้ ตอนหน้าเรื่องอะไรดี?